สารบัญ

เคล็ดลับการตีดาบลายจากโลหะยอดวิหารเก่าที่ทรงคุณค่า ให้ลายสวยพลิ้ว

ในบรรดาโลหะมงคลที่นำมาใช้สร้างศัสตราวุธ เหล็กพระธาตุหรือโลหะยอดวิหารที่ประทับอยู่เหนืออุตรมณฑลนับเป็นยอดแห่งโลหะ เพราะเชื่อว่าได้ซับพุทธคุณและไอสุริยันจันทรามาอย่างเต็มเปี่ยม สำหรับศัสตราวุธที่มีการตีขึ้นจากยอดโลหะนี้ยังเคยปรากฏอยู่ในวรรณกรรมต่าง ๆ เช่น การสร้างดาบฟ้าฟื้นของขุนแผน แล้วก็ตำราการทำมีดหมอหรือมีดแสดงยศถาบรรดาศักดิ์ต่าง ๆ แต่ศัสตราวุธนี้จะไม่นำมาใช้งานจริง โดยเหล็กยอดพระธาตุนี้ ชาน่าคราฟต์จะตีเป็นดาบ ให้ชื่อว่า ชยุตรา ชย หมายถึง ชัยชนะ +อุตรา หมายถึง เหนือ เมื่อรวมกันจึงให้ความหมายว่า เหนือชัยชนะทั้งปวง

สารบัญ

การเผาเหล็กโบราณก่อนจะนำไปตีมีด ตีดาบ

โลหะเหล่านี้อาจจะเป็นโลหะที่มีความแข็งไม่มากนัก เพราะมีการผสมโลหะมงคลหรือมวลสารศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ตามความเชื่อมาตั้งแต่ในอดีต ทั้งยังเป็นโลหะเก่าที่อาจจะมีอายุร่วม 100 ปี ก่อนจะตีขึ้นรูปจึงต้องเผารอบแรกด้วยไฟอ่อนหรือความร้อนในระดับที่ใช้ทำอาหารประมาณ 30 นาที แล้วนำเข้าเตาเผาอีกรอบจึงเร่งไฟขึ้นอีกประมาณ 20 – 30 นาที  จะไม่เผาให้แดงรอบเดียว เพราะมีโอกาสสูงที่เหล็กจะละลายก่อนที่จะได้รับความร้อนร้อนอย่างทั่วถึง ซึ่งในระหว่างนี้ก็จะหมุนเหล็กยอดพระธาตุไปเรื่อย ๆ จึงค้อยนำเหล็กออกมาตียืด ต่างจากการตีมีดเดบะญี่ปุ่นก่อนหน้านี้ซึ่งเป็นเหล็กยุคใหม่ค่ะ

เคล็ดลับการตียืดดาบจากเหล็กเก่า เหล็กมวลสารโบราณ

การตียืด จะตีสองด้านคือด้านกว้างและด้านหน้าสลับกันไป ถ้าเหล็กสีเปลี่ยน คือ เริ่มมีสีที่แดงก่ำแสดงว่าเหล็กเริ่มคลายความร้อน ก็จะต้องนำไปเผาใหม่ อย่าฝืนตีตอนเหล็กไม่ร้อนเป็นอันขาด มิเช่นนั้นเหล็กจะแตกเอาได้ พอตียืดได้ขนาดความยาวดาบตามที่ต้องการแล้ว ก็จะตีแต่งทรง แต่ในขั้นตอนนี้สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ผงบอแรกซ์ ที่จะต้องโรยทุกครั้งก่อนจะนำเหล็กเข้าเตาเผา ซึ่งจะช่วยผสานเนื้อโลหะให้เป็นเนื้อเดียวกันค่ะ

เคล็ดลับการตีขึ้นรูปทรงดาบ

หากการตีดาบนี้เว้นช่วงการตีจนโลหะเย็น ก่อนจะนำมาตีในขั้นตอนต่อไปก็ต้องทำการการอุ่นเหล็กก่อน  สำหรับการตีขึ้นรูป ให้พยายามดูลายเส้นของเหล็กในขณะที่ตียืดก่อนหน้านี้ ว่าลายเส้นของโลหะชัดเจนในฝั่งใดก็ให้เอาฝั่งนั้นเป็นคมและสัน เช่นนี้จึงจะทำให้เหล็กไม่แตก และให้ลวดลายที่สวยงามหลังการชุบกรดกัดปริ้นท์นั่นเองค่ะ

 

ความยากในการตีดาบลาย ชยุตรา

ในบรรดาเหล็กมงคลที่เคยตีผ่านมือ พี่ช่างบอกว่าดาบจากเหล็กยอดพระธาตุเล่มนี้ตียากที่สุด เพราะนอกจากกระบวนการเผาที่แตกต่างจากเหล็กยุคใหม่แล้ว การตียืดก็ต้องโรยผงบอแรกซ์ไปด้วย ต้องลงหน้าค้อนให้ขนานกับหน้าทั่ง มิเช่นนั้นเหล็กจะเบี้ยวและเนื้อเหล็กฉีก 

ความยากในด้านการตีแต่งทรงก็ไม่ด้อยไปกว่ากัน ต้องไม่ตีฝืนเหล็กจนเกินไป ค่อย ๆ นวด ค่อย ๆ แต่งทรง โดยเฉพาะการแต่งบริเวณแก้มคมแทนการเคาะสัน อีกทั้งจะปล่อยไว้ในเตาเผานานก็ไม่ได้  เพราะเหล็กละลายง่ายกว่าเหล็กทั่วไป ช่างจึงต้องนั่งเฝ้าหน้าเตาอย่างใกล้ชิดและค่อยตี ค่อยเผาจนกว่าจะได้ทรงดาบตามที่ต้องการค่ะ 

การทำให้ดาบขึ้นลายและป้องกันสนิม

เหล็กที่มีการตีทบก็จะปรากฎลวดลายที่เกิดจากการซ้อนทับของโลหะ ซึ่งที่ผ่านมาเคยมีการตีมีดซุยจากสมอเรือเก่าและฝังแกนตะไบ พอนำไปจุ่มกรดก็เกิดลายสวยงาม แน่นอนว่าเหล็กโบราณอย่างยอดวิหาร ยอดเจดีย์ที่มีการผสมมวลสารหลากหลายชนิดย่อมต้องขึ้นลาย ยิ่งมลทินในเนื้อเหล็กเยอะ ลายก็จะสวยงามแตกต่างกันไป หลังจากที่ชุบแข็งมีดและขัดใบมีดแล้ว ให้นำไปจุ่มกรดกัดปริ้นท์ได้เลยค่ะ 

จุ่มกรดกัดปริ้นท์จะทำให้ดาบขึ้นลายและล้างด้วยน้ำยาหล่อเย็นป้องกันสนิม

กรดกัดปริ้นท์ที่ชาน่าคราฟต์ใช้ จะนำมาละลายด้วยน้ำ จากนั้นก็นำใบมีดหรือใบดาบที่ผ่านการขัดผิวอย่างละเอียดลงไปจุ่ม ในกรณีที่ใบดาบยาวเกินภาชนะที่ใส่กรด ก็ให้ใช้ผ้าสะอาดจุ่มน้ำกรดกัดปริ้นท์แล้วนำมาลูบกับใบดาบใบมีดก็ทำให้เกิดลวดลายเช่นกัน และวิธีลดการเกิดสนิมที่พี่ช่างใช้เป็นประจำคือ การใช้น้ำยาหล่อเย็นหม้อน้ำรถจักรยานยนต์ผสมน้ำสะอาด นำมาลูบทำความสะอาดใบดาบหลังการจุ่มกรดกัดปริ้นท์ ทั้งยังใช้ล้างทะความสะอาดใบมีดหลังการลับคมด้วยเช่นกัน

เหล็กมงคลต่างที่มา มักจะให้สีของลายที่ต่างกัน

จากประสบการณ์ตีมีดมงคลที่ผ่านมาขอพี่ช่างพบว่า เหล็กมงคลที่ได้จากบางแห่งจะมีเนื้อเหล็กสีเทาขาวและเป็นลายตามดสลับกัน โดยเหล็กที่ได้จากจีนจะมีลักษณะเป็นสีเทาเหลืองมีลายเส้นตามด ส่วนเหล็กมงคลที่ได้ในภาคเหนือตอนบนหรือภาคเหนือฝั่งตะวันตกจะมีสีดำปน แต่ทว่าเหล็กโบราณที่ได้จากภาคอีสานตอนบนจะมีสีดำเงาและมีสีน้ำเงินปน ซึ่งขึ้นอยู่กับมวลสารตามความเชื่อของแต่ละท้องถิ่นที่ถูกผสมลงไป

ยอดวิหาร ยอดเจดีย์แบบใดไม่ควรนำมาตีมีด ตีดาบ

มวลสารมงคลที่อยู่ในเขตพุทธสีมาไม่ว่าจะเป็นสังฆวานร หรือยอดเจดีย์ก็ตาม จะนำเอาเฉพาะมวลสารจากเจดีย์ที่ล่มสลายแล้ว หรือเจดีย์ที่ทางวัดรื้อถอนเพื่อต้องการบูรณะใหม่จึงจะถือว่าเป็นมงคลต่อผู้สร้างและผู้ครอบครอง ยอดเจดีย์ก็เปรียบเสมือนเครื่องเตือนใจ ว่าต่อให้ร่างกายอันเป็นองค์เจดีย์ได้ล่มสลาย สูญสลายแตกดับไปแล้ว แต่ก็ยังเหลือยอดเจดีย์ซึ่งเป็นเหล็กเอาไว้ เปรียบเสมือนความดีงามที่มนุษย์ผู้หนึ่งพึงสร้างไว้ก่อนสิ้นอายุขัย

   ศรีศรีขรรค์ชยศัสตราวุธสมัย
อาราธนาชัย              ชนา
   เอายอดเจติยโลหะมังคลมหา
เพ็ญเจ็ดมะโรงมา       ประมวล
   ใบดาบปัญจทสาประมาณสิริกระบวน
เทียบองคุลีทวน         ประทับ
   ปลายแหลมเรียวระยะโคนลุปลายระยะระยับ
มันวาววะวาววับ         วิพรรณ
   องค์ดาบแต่งลุหะชาติสกุลหริสุวรรณ
ถ้วนสามกษัตริย์สรร   สภา
   คราเมื่อล่วงลุสมัยพิมังคลมหา
ให้นาม “ชยุตรา”        ชยันต์
   อันนามอาวุธนี้จะหมายวิมุติอัน
เป็นยิ่งเกษมสันต์        สถาน

                        ฉัตรสุมาลย์ ภูแต้มนิล ประพันธ์

Picture of ชนาณัฏฐ์ ชเณศวรสิทธิ์

ชนาณัฏฐ์ ชเณศวรสิทธิ์

นักเขียน ผู้บรรยายเสียง ร้อยเรียงเนื้อหาของชาน่าคราฟต์ Chana Craft

Scroll to Top