ทำขลุ่ยผิวไม้ไผ่ เป่าง่าย ไม่กินลม ไม่ต้องติดเยื่อไผ่
ชาน่าคราฟต์จะพาไปทำขลุ่ยผิวจากไม้ไผ่ดอย ซึ่งความพิเศษอยู่ที่การทำขลุ่ยผิวเสียงสากลที่ไม่ต้องติดเยื่อไผ่ เป่าง่าย ไม่กินลม ซึ่งวิธีการทำนั้นเราจะคัดเลือกเอาไม้ไผ่เฮียะจากดอยสูงในจังหวัดแม่ฮ่องสอนมาทำเป็นขลุ่ย
วิธีการเตรียมไม้เพื่อทำขลุ่ยผิวไม้ไผ่
การตัดไม้ไผ่มาทำขลุ่ยผิว จะนิยมไม้ไผ่ปล้องยาว เนื้อบาง ซึ่งไม้ไผ่เหล่านี้จะเสียงที่กำธรมากกว่าปกติ ไผ่ที่นิยมก็คือไผ่เฮียะ ไผ่ข้าวหลามกาบแดง ไผ่รวกแดงค่ะ ซึ่งจะมีวิธีการเตรียมไม้เช่นเดียวกัน
การทำขลุ่ยผิวจากไม้ไผ่สดและไม้ไผ่หมาด
เพื่อให้ไม่ไผ่หดตัวและมีความทนทานในการใช้งานมากยิ่งขึ้น เราจะต้องนำไม้ไผ่ไปต้มในน้ำเดือดโดยจะมีการโรยผงขี้เถ้าละเอียดลงไปด้วยค่ะ ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ไม้เหนียว แห้งไว และป้องกันแมลงกินไม้ได้ดี แต่จะดียิ่งขึ้นหากตัดไม้ไผ่ในช่วงหน้าแล้งและเลือกเอาเฉพาะลำที่แก่จัด
การต้มควรต้มในปี๊บ ถังโลหะหรือภาชนะที่สามารถจุ่มไม้ไผ่ลงไปในน้ำได้ทั้งลำ โดยจะใช้เวลาในการต้มนาน 4-6 ชั่วโมง
นำไม้ไผ่เก็บใส่กระสอบแล้วทิ้งไว้ในร่มประมาณ 3 วัน สาเหตุที่ต้องผึ่งในลักษณะนี้ก็เพราะว่าไม่ต้องการให้ไม่ไผ่แห้งเร็วเกินไป ประเดี๋ยวไม้จะแตกร้าวจนใช้การไม่ได้นั่นเองค่ะ
นำไม้ไผ่ไปผึ่งไว้ในแนวดิ่ง เพื่อให้ไม้แห้งอย่างสม่ำเสมอ และยังช่วยให้สามารถคัดเลือกไม้ไผ่ที่มีรอยแตกร้าวได้อย่างดี โดยใช้วิธีการเคาะฟังเสียง ไม้ที่มีรอยร้าวก็จะมีเสียงที่แปร่งและต่างจากลำอื่น ๆ อย่างชัดเจน
กว่าไม้จะแห้งสนิทก็ใช้เวลาประมาณ 4-5 วัน จากนั้นก็นำไม้ไผ่อีกลำมาคว้านเข้าไปด้านในรูไม้ไผ่ที่จะใช้ทำขลุ่ยเพื่อเอาเศษขี้เถ้าและสิ่งแปลกปลอมออกมาให้หมด
อบไม้ไผ่อีกรอบเพื่อให้มั่นใจว่าไม้จะแห้งสนิท ในการอบนี้จะนำไม้ไผ่มาเสียบเรียงกันในแนวดิ่ง คลุมด้วยถังเหล็ก แล้วจึงก่อไฟด้านนอก เมื่อไฟมอดดับก็นำไปขัดทำความสะอาดได้เลย
การทำขลุ่ยผิวจากไม้ไผ่แห้ง
ส่วนใหญ่จะไม่นิยมทำขลุ่ยจากไม้ไผ่แห้ง เพราะไม้ไผ่แห้งนั้นเนื้อเยื่อไม่ค่อยแข็งเท่าไหร่นัก ไผ่มักจะผ่านความชื้นและแมลงรบกวนมาพอสมควร หากทำขลุ่ยเสียงที่ได้จะค่อนไปทางทึบกว่าการใช้ไผ่สด ไผ่หมาดนั่นเอง
การขัดผิวขุล่ยผิวไม้ไผ่ให้สีสวยคลาสสิค
การทำความสะอาดไม้ไผ่ให้สีสวยพรีเมี่ยม คือการนำไปขัดกับทรายละเอียด โดยใช้เพียงเศษผ้าและทรายที่เปียกชุ่มน้ำมาขัดกับผิวไม้ไผ่ วิธีนี้จะทำให้เศษสิ่งสกปรกด้านนอกหลุดไป พร้อมเผยสีสวยของลำไม้ไผ่อย่างสม่ำเสมอ แล้วจึงทำให้ไม้แห้งสนิทปราศจากความชื้นโดยการนำไปอังไฟอุ่น ๆ เพียงเท่านี้ไม้ไผ่ก็จะให้สีสวยคลาสสิค ตัดหัวและท้ายไม้ไผ่แต่ละลำ เพียงเท่านี้ไม้ไผ่เฮียะลำน้อยก็พร้อมที่จะนำไปเจาะรูเป็ยขลุ่ยผิวแล้ว
การเจาะรูและสเกลการเทียบคีย์ขลุ่ยผิวไม้ไผ่
โดยทั่วไปขลุ่ยผิวไม้ไผ่จะมีเยื้อไผ่ปิดรูไว้เพื่อให้เกิดแก้วเสียงและให้เสียงของขลุ่ยเลานั้นมีความดังกังวานมากกว่าเดิม ทว่าวิธีการของชาน่าคราฟต์ต้องการให้ขลุ่ยไม้ไผ่มีท่วงทำนองเสียงคล้ายกับฟลุต (Flute) โดยการนำสเกลขลุ่ยแต่ละคีย์มาวางเทียบ อุปกรณ์ในการเจาะก็มีเพียงแค่เหล็กซีหรือเหล็กเจาะรูปลายแหลมร้อน ๆ ค่อยเจาะตามจุดที่ทำสัญลักษณ์ไว้โดยจะใช้วิธีการคำนวณสเกลคีย์ขลุ่ยดังแผนภาพนี้ค่ะ
ขัดเก็บรายละเอียดรูขลุ่ยด้วยกระดาษทรายน้ำ เคลือบผิวให้สวยด้วยเทียนไขหรือขี้ผึ้งทาไม้ซึ่งจะว่าไปเครื่องมือช่างดนตรีก็ใช้ร่วมกันกับเครื่องมือช่างตีมีดได้ ปิดส่วนบนเหนือกล่องเสียงด้วยการใช้โฟมหนาทรงประบอก โดยวัดระยะประมาณ 1 ข้อมือจากรูเป่าจะทำให้ขลุ่ยสามารถเล่นเสียงสูงได้ดี เพียงเท่านี้ก็จะได้ขลุ่ยผิวไม้ไผ่สุดคลาสสิคแล้วค่ะ
“คุณค่าที่แท้จริงของเครื่องดนตรีทุกอย่าง ขึ้นอยู่กับสุนทรียภาพของผู้บรรเลงและผู้รับฟังเสมอครับ”
เป่าขลุ่ยผิวไม่ดัง ต้องทำยังไง
เชื่อว่าหลายคนที่เพิ่งหัดเป่าขลุ่ยผิวใหม่ ๆ ต้องเจอปัญหาเป่าขลุ่ยผิวไม่ดัง เป่าแล้วไม่มีเสียงกันทั้งนั้น ปัญหาเส้นผมบังภูเขานี้สามารถแก้ได้ง่าย ๆ ด้วยการควบคุมลมที่ออกจากริมฝีปาก ควรปล่อยลมออกมาให้มีลักษณะแบนและบางคล้ายกับเส้นริบบิ้นเสมือนกับว่าเรากำลังยิ้มนั่นเอง
เสน่ห์ของขลุ่ยผิวไม้ไผ่ ความไพเราะที่ธรรมชาติสรรค์สร้าง
การทำขลุ่ยผิวจากไม้ไผ่นั้น มีข้อดีอยู่ตรงที่ไม่ต้องกลึงไม้ เพราะไม้ไผ่แต่ละข้อจะมีช่องอยู่ด้านใน ไม้ไผ่แต่ละปล้องแต่ละข้อก็จะมีเอกลักษณ์ที่ต่างกันตามธรรมชาติ เรียกว่าสวยไม่ซ้ำแม้แต่ตัดออกจากต้นเดียวกันก็ตามและที่ทำให้ใครหลายคนหลงใหลเสียงของขลุ่ยผิวไม้ไผ่ก็เพราะว่า ขลุ่ยแต่ละเลาต่อให้เป็นคีย์เดียวกันก็จะมีเนื้อเสียงที่ใสต่างกัน นี่แหละที่เรียกว่าเสนห์ที่ธรรมชาติสรรค์สร้าง
ชนาณัฏฐ์ ชเณศวรสิทธิ์
นักเขียน ผู้บรรยายเสียง ร้อยเรียงเนื้อหาของชาน่าคราฟต์ Chana Craft
