การตีดาบศอกจากตะไบเก่า
ตะไบเก่าที่ใช้ขัดมีดขัดไม้ไม่ได้แล้ว เราสามารถนำมาตีขึ้นรูปใหม่เพื่อทำเป็นดาบได้ ซึ่งดาบนั้นเป็นหนึ่งในศาสตราวุธไทยที่มักถูกพกออกนอกบ้าน โดยเฉพาะนายพรานและพ่อค้าที่ต้องเดินทางไกลนิยมใช้ เพราะใช้งานได้สารพัดประโยชน์ เหมาะกับการใช้ต่อสู้ในระยะประชิดค่ะ สาเหตุที่เรียกว่าดาบศอกก็เพราะว่าขนาดใบดาบมีความยาวไม่เกินศอกหรือไม่เกิน 50 ซม. จึงมีจุดเด่นตรงการพกพาได้ง่าย แต่ข้อด้อยคือระยะดาบค่อนข้างสั้น ให้น้ำหนักฟันน้อยกว่าดาบยาวนั่นเอง
ดาบศอกมี 2 ประเภท
1.ดาบศอกใช้งาน
มีทั้งปลายตัดและปลายแปลม สันดาบจะมีความหนาเพื่อให้มีน้ำหนักฟันที่ดี และมักจะทำมาจากเหล็กกล้า ไม่ว่าจะเป็นเหล็กน้ำพี้ เหล็กตะไบ เหล็กถลุง ในปัจจุบันนี้สามารถใช้เหล็กเกรดใบมีดอื่น ๆ ได้เช่นกัน ซึ่งจะมีความแข็งแรงทนทานกว่าเหล็กทั้ง 3 ชนิดที่กล่าวมาข้างต้น สามารถใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ตั้งแต่การฟันไม้ ทำอาหารไปจนถึงการปกป้องตนเอง
2.ดาบศอกมงคล
จะนิยมทำจากมวลสารมงคล เช่น เหล็กยอดพระธาตุ เหล็กตะปูสังฆวานรแท่งใหญ่ เหล็กหมุดวิหาร เป็นต้น มักจะมีลักษณะโคนหนาเรียวปลาย และออกแบบให้ความยาวดาบมีขนาดเท่ากับศอกของผู้ถือครอง มักจะพกไว้ในเคหะสถาน ซึ่งส่วนใหญ่จะห้อยไว้บนขื่อบ้านหรือวงกบประตูเพื่อให้ผู้ที่เข้ามาในบ้านจำเป็นต้องลอดผ่านดาบเล่มนี้ เชื่อว่าจะช่วยป้องกันเสนียดจัญไรจากภายนอกเข้าสู่นอกบ้านนั่นเอง
แล้วทำไมพี่ช่างของชาน่าคราฟต์ จึงเลือกตะไบมาตีดาบศอกล่ะ?
ช่างมีดทั้งหลายจะถือว่าตะไบเป็นเหล็กชั้นครู เป็นเหล็กกินเหล็กที่ขัดเกลาให้มีดกลายเป็นมีดได้ และอีกหนึ่งเหตุผลก็คือตะไบรักษาคมได้ดี อีกทั้งในอดีตยังมีความเชื่อเรื่องเหล็กกินเหล็ก เพราะสามารถนำไปขัดเหล็กชนิดได้ ด้วย้หตุนี้ในบรรดาเสือปล้นจึงนิยมทำดาบขึ้นจากตะไบซึ่งมาจากความเชื่อที่ว่าเสือปล้นคือ คนกินคนก็ต้องคู่กับดาบที่ทำจากเหล็กกินเหล็กนั่นเอง แต่ทั้งนี้ดาบตะไบก็จะมีความเปราะกว่าดาบที่ทำจากเหล็กชนิดอื่น ดังนั้น หากจะตีดาบจากตะไบก็ต้องมีกรรมวิธีการชุบที่ต่างออกไปจากมีดหรือดาบทั่วไปค่ะ
ขั้นตอนการตีดาบศอก
ว่ากันว่าตีดาบต้องตีหมื่นค้อน ประโยคนี้ไม่ได้กล่าวเกินจริงเลยค่ะ เพราะในการตีดาบนั้นจะมีรายละเอียดบางอย่างที่ต่างจากการตีมีดอยู่บ้าง โดยปกติการตีมีดจะตีเน้นไล่ระดับจากสันลงสู่คมมีด ทว่าการตีดาบนั้นจะมีรายละเอียดเพิ่มขึ้นตรงที่ต้องตีจากโคนใบไปจนถึงปลายใบให้มีระดับไล่ลดหลั่นกันลงมา จึงกล่าวได้ว่า การตีดาบนี้เป็นศาสตร์และศิลป์ชั้นสูงของช่างมีดเลยก็ว่าได้ ถ้าเตรียมตะไบพร้อมแล้วก็มาเริ่มการตีดาบศอกได้เลยค่ะ

การอบคืนไฟ
การตีมีดหรือดาบจากเหล็กตะไบ จะต้องนำตะไบชิ้นนั้นไปเผาอบอ่อนเพื่อให้โครงสร้างเหล็กที่ถูกชุบมากลับคืนสู่สภาพ จะทำให้ตีได้ง่ายและลดการแตกได้ดี

การตียืดเหล็กตะไบ
เนื่องจากถ่านเรามีน้อย จึงเผาและตีเฉพาะจุดที่ต้องการยืดเหล็ก นอกจากจะช่วยประหยัดถ่านแล้ว ก็ยังทำให้กำหนดจุดการตีได้ดียิ่งขึ้น ในการตีคม ตีแต่งทรงจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ จะลงน้ำหนักค้อนมากไปก็ไม่ได้ประเดี๋ยวคมจะเบี้ยว

ตีดัดสันดาบเพื่อป้องกันดาบงอ
พอคมดาบศอกเริ่มยืดออก สันมีดก็จะโค้งงอเป็นเรื่องธรรมดาค่ะ จึงต้องตีดัดไปพร้อมกัน ถ้าหากไม่ตีดัดสันดาบนั้นก็จะโค้งงอไปเรื่อย ๆ คล้ายกับจันทร์เสี้ยว

ตีแต่งกั่นดาบศอก
ด้วยลักษณะของตะไบจะมีส่วนกั่นเดิมอยู่แล้ว แต่ถ้าต้องการให้กั่นยาวขึ้น ก็ต้องมีการใช้เหล็กอีกชิ้นมาตีแบ่งสัดส่วนระหว่างใบดาบกันกั่นดาบ จากนั้นก็เผาและทุบเฉพาะช่วงกั่นดาบเพื่อตียืดออก

ตีแต่งผิวดาบศอก
เมื่อตีดาบแล้วก็อย่าลืมลูบน้ำบนผิวทั่งเพื่อลดหลุมค้อนและถนอมหน้าทั่งไม่ให้บิดเบี้ยวผิดรูป ในการตีดาบครั้งนี้จะตีสัมผัสเบา ๆ เพื่อแต่งผิว ยิ่งใบดาบบางเหล็กก็ยิ่งคลายความร้อนได้เร็ว พี่ช่างจะเริ่มเร่งการตีโดยเน้นตีเบาและเร็วก่อนความร้อนคลาย จะได้ไม่ต้องเอาเข้าเตาบ่อย ๆ

ขูดผิวแต่งคม
ก่อนจะชุบมีดหรือดาบก็ต้องขูดผิวแต่งคมด้วยกระดาษทรายและตะไบให้เรียบร้อย เพราะหลังชุบแล้วดาบเล่มนั้นจะมีความแข็ง ทำให้ขัดแต่งได้ลำบากนั่นเอง ทำแบบนี้ให้ครบทุกด้านเลย

ขั้นตอนการชุบดาบด้วยน้ำเปล่า
อุ่นน้ำในบ่อชุบเป็นอับดับแรก ในการเผาเพื่อชุบนั้น ถ้าไม่อยากให้ความร้อนกระจุกอยู่เฉพาะจุดก็อย่าลืมทุบถ่านให้มีขนาดเล็กลงเพื่อใช้เผาชุบค่ะ โดยดาบศอกเลมนี้จะไม่ชุบให้แข็งจัดจนเกินไป จะรักษาความเหนียวในช่วงสันและกลางใบให้ได้มากที่สุดเพื่อป้องกันการเปราะแตกจากการใช้งานนั่นเอง
ตีดัดแล้วชุบอีกรอบก่อนอบคืนไฟ หลังอบอ่อนก็ต้องจุ่มน้ำชุบอีกครั้งแต่รอบนี้จะไม่ชุบให้แข็งเท่ารอบก่อน นั่นก็เพื่อป้องกันแรงดีดตัวของตะไบ แล้วจากนั้นก็อบคืนไฟเป็นอันเสร็จสิ้น

การทำด้าม ฝัก และคอดาบ
ด้ามดาบศอกนี้พี่ช่างออกแบบให้เป็นด้ามพริกที่มีปลายด้ามเรียวแหลมและงอนเล็กน้อย เมื่อในไปใช้งานส่วนปลายด้ามดาบก็จะไม่เกี่ยวกับชายเสื้อของผู้ถือดาบ และที่สำคัญไปกว่านั้นคือ เมื่อยามจับที่ด้ามก็ระลึกรู้ได้ถึงคม ด้ามนี้ทำจากไม้พะยูงซึ่งเป็นไม้เนื้อแข็ง ทนต่องแรงกระแทกและการขูดขีดได้ดี
ส่วนปลอกคอดาบนั้นก็จะใช้ท่อทองเหลืองหรือปลอกคอมีดทองเหลือมาดีให้ปลายปลอกคอผายออกเล็กน้อยด้วยการนำไปตีกับทั่งบ้องหรือทั่งตัวโอจะทำง่ายและสวยงาม
ดาบศอก คนทั่วไปนิยมเอามาใช้ในทุกภารกิจ
การใช้งานดาบศอกนั้นจะนิยมนำมาใช้ในทุกภารกิจของคนทั่วไป ด้วยเหตุนี้ดาบศอกจึงไม่มีกระบังดาบซึ่งแตกต่างจากดาบหลวงที่มีองค์ประกอบของด้ามหลายส่วน จึงนับเป็นดาบที่มีความงามอย่างเรียบง่ายตามแบบฉบับของชาวบ้านนั่นเอง

ชนาณัฏฐ์ ชเณศวรสิทธิ์
นักเขียน ผู้บรรยายเสียง ร้อยเรียงเนื้อหา ของ ชาน่า คราฟต์ Chana Craft
…กว่าจะเป็นดาบงามตามที่เห็น เหนื่อยจนเหงื่อกระเซ็นลงเป็นสาย
แต่ความเหนื่อยพอมีอยู่ที่กาย เมื่อใจหมายแผ่นหินก็ภินท์พัง
…ทีละค้อนทีละค้อนตีเค้น กะเกณฑ์รูปร่างอย่างหวัง
จากรุ่งสู่รุ่งเย็นยัง ย่ำค่ำกำลังโรยรา
…เป็นทั้งมีดเป็นทั้งดาบใช้ปราบป้อง อาวุธของนายพรานชำนาญป่า
อาวุธของนายฮ้อยห้อยพกพา ดาบศอกเป็นศาสตราราษฎร